"YOK8" เดินหน้าปรับเป้าหมายขึ้นแท่นผลิตปูนสำเร็จรูปรายใหญ่

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ระบุไว้เมื่อต้นปีว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างในปี มังกรที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่เติบโตสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งแบ่งเป็นการก่อสร้าง ของภาคเอกชนและภาครัฐ เท่ากับ 431,307 ล้านบาท และ 496,633 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 927,940 ล้านบาท (ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 จากเดิมปี 2554 ขยายตัวร้อยละ 1.6) ด้วยผลจากการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างที่เสียหายจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 เป็นหลัก ผนวกกับการ ก่อสร้างของภาคเอกชนปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด

อย่างไรก็ดี การก่อสร้างโดยภาครัฐที่เน้นลงทุนสิ่งจำเป็นพื้นฐาน มีส่วนทำให้เกิดการพัฒนาเมืองและความเจริญในพื้นที่ ซึ่งเป็นเหตุให้ประชาชนเข้าไปตั้งถิ่นฐานเพื่ออยู่อาศัย หรือทำงานมากขึ้น

ด้วยผลจากการก่อสร้างโครงการ ลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งกรณีที่เป็นโครงการที่ต่อเนื่องจากปีก่อน และโครงการที่จะเปิดประมูลในปีนี้ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี (วงเงิน 80,000 ล้านบาท) บวกกับการขยายตัวของการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชน นับเป็นแรงผลักดันสำคัญให้อุตสาหกรรมก่อสร้างไทยจะยังคงเติบโต โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในปี 2556 มูลค่าก่อสร้างของไทยจะเติบโตเพิ่มขึ้น ราวร้อยละ 10.5-12.9 คิดเป็นมูลค่า 1,025,000- 1,047,500 ล้านบาท (จากเดิมปีที่ผ่านมาขยายตัวร้อยละ 12.8) แบ่งออกเป็น การก่อสร้างของภาครัฐและเอกชนในสัดส่วน 45:55)

แม้ว่าจากในครึ่งปีหลัง แวดวงอุตสาหกรรมก่อสร้างดูจะเงียบๆ ซบเซาไปบ้าง แต่กระนั้นคนทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ ก็ใช่ว่าจะหยุดอยู่กับที่ ยังคงขยาย ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

"YOK 8" ปูนสำเร็จรูปรายใหญ่ เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่มีการขยายตัว อย่างต่อเนื่อง

ปกรณ์วัสส์ อิทธิอาวัชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ยกแปด จำกัด ผู้ผลิต จำหน่ายปูนสำเร็จรูปรายหนึ่งของไทย ภายใต้ชื่อ "YOK 8" เปิดเผยถึงสถานการณ์ของธุรกิจปูนในขณะนี้ว่า มีอัตราการเจริญเติบโตดีมาก เนื่องจากธุรกิจการก่อสร้างโดยเฉพาะอาคารสูง กำลังมีแนวโน้มที่สดใส ประกอบกับผู้บริหารโครงการใหญ่ๆ เช่น ศุภาลัย, แสนสิริโนเบิล, เสนาดีเวลล็อบเมนท์, ชวนชื่น, คอนโด ยู ดีไลท์ และบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำอีกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งต่างประเทศในกลุ่ม AEC เตรียมก่อสร้าง โครงการจำนวนมาก ก็ยิ่งจะทำให้ธุรกิจปูนมีอัตราความเจริญเติบโตควบคู่ไปด้วย และเพื่อให้ทันต่อความ ต้องการที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงได้เพิ่มกำลังผลิตปูนทั้งระบบ และพร้อมที่จะเพิ่มกำลังผลิตทันทีหากตลาดมีความต้องการ ซึ่งเมื่อเปรียบ เทียบจากกำลังการผลิตดังกล่าวแล้วจะทำให้บริษัทก้าวขึ้นสู่ผู้ผลิตปูนสำเร็จรูป รายใหญ่ของไทยทันที ซึ่งในปัจจุบันกำลังการผลิตโดย รวมของปูนประเภทดังกล่าวมีกำลังการผลิตทั้งสิ้น มากกว่าจำนวน 200,000 ตัน/ปี

"นอกจากเพิ่มกำลังผลิตแล้ว ยังได้มีการเปลี่ยนแบรนด์จากชื่อ "เคทีพี" มาเป็น ชื่อ YOK 8Ž ทั้งหมด เพื่อง่ายต่อการจดจำประ กอบด้วยปูนก่อสำเร็จรูปปูนก่ออิฐมวลเบา ปูนฉาบ สำเร็จรูป ปูนฉาบอิฐมวลเบา ปูนฉาบผิวคอนกรีต ปูนกาวปูกระเบื้อง และปูนแต่งผิวบางสกิมโค๊ท นอกจากนี้ กำลังเร่งพัฒนาสินค้าตัวใหม่คือ ปูนกาวยาแนว ปูกระเบื้อง ใช้สำหรับเชื่อม ต่อร่องกระ เบื้อง ได้มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ล่าสุด จากต่างประเทศ และสารเคมีที่ผ่านการรับรองจากสถาบันแล็บชั้นนำในต่างประเทศ มาใช้ในการผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าสินค้าตัวใหม่ของ YOK 8Ž จะเริ่มออกวางตลาดในเดือนตุลาคม 2556 นี้ นับเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของไทยจะทำให้วงการก่อสร้างของไทยเกิดความตื่นตัว เกิดความเชื่อมั่นต่อบริษัทผู้ผลิตคนไทยมากขึ้น จากที่กล่าวมา บริษัทยังได้มีการพัฒนาด้านการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าได้ทันที โดยได้จัดหารถหกล้อเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 5 คัน เพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก" ปกรณ์วัสส์ กล่าว

ปกรณ์วัสส์ ยังได้กล่าวถึงแผนการ ลงทุนในปี 2556 ว่าเป็นปีที่บริษัทมุ่งแสวงหาพันธมิตรทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของเหมืองหินซึ่งขณะนี้มีอยู่หลายแห่ง เช่น สระบุรี เพชรบุรี และอื่นๆ รวมทั้งการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วทุกภูมิภาคเจาะกลุ่มลูกค้าทั่วไป และผู้รับเหมารายใหญ่ ซึ่งบริษัทเคยทำสำเร็จมาแล้ว เช่น โครงการศุภาลัย แสนสิริ โนเบิล เสนาพร็อบเพอร์ตี้ รวมไปถึงตลาดในกลุ่มอาเซียน เช่น พม่า ลาว กัมพูชา โดยขณะนี้แต่ละประเทศได้มีการส่งตัวแทนมาเจรจาในเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จากปี 2547 มาถึงปัจจุบัน ด้วยระยะไม่ถึง 10 ปี นักธุรกิจหนุ่มอย่าง "ปกรณ์วัสส์" สามารถสร้างชื่อให้กับปูนสำเร็จรูปอย่าง "YOK 8" ให้เป็นที่ยอมรับและขยับขึ้นสู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมก่อสร้าง ยืนยันได้จากโครงการ ใหญ่ๆ ที่เลือกใช้ ปูน "YOK 8" อย่างเอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ของปตท. สกาย วอล์ค คอนโดมิเนียม ตึกคุรุศาสตร์ จุฬา ลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ศิริราช ศุภาลัยปาร์ค และ ซิตี้โฮมเกือบ ทั้งหมด และอื่นๆ ซึ่งมีมูลค่าลงทุนโดยรวมไม่ต่ำกว่า 100,000-200,000 ล้านบาท

และเมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเกิดขึ้นในปี 2558 ปกรณ์วัสส์ จะสร้างแบรนด์ YOK 8 ให้โตแบบก้าว กระโดดกว่านี้แน่ จึงเป็นที่น่าจับตา และท้าทายอย่างยิ่ง